Wednesday, July 8, 2015

Vespa GTS 300  ได้เดินทางมาให้ชาวไทยได้สัมผัสอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ทั้ง GTS 300 Super, GTS 300 Super Sport และ GTS 300 Touring นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด

Vespa GTS 300 กับโมเดลทั้ง 3 รูปแบบที่มีทั้งรูปลักษณ์และออพชั่นเสริมที่แตกต่างกัน ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น สามารถใช้งานได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง ไม่ว่าจะเป็น

Vespa GTS 300 Super

Vespa GTS 300 Sport

รถสกู๊ตเตอร์ทรงสปอร์ต ที่ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีการขับขี่และการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนล้อหน้า ESS (Enhanced Sliding System), โช๊คอัพพิเศษที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาะในการเกาะถนนได้หลากหลาย ลดการสั่นสะเทือนได้ดี, ระบบเตือนความจำในการจอดรถซึ่งจะเชื่อมข้อมูลไปยังสมาร์ทโฟนของเจ้าของรถเพื่อระบุพิกัดที่จอด, แพลตฟอร์มมัลติมีเดีย (VMP) เพื่อแสดงข้อมูลสภาพรถ และสภาพการเดินทางแบบต่างๆ, พร้อมไฟหน้า LED Daylight และเครื่องยนต์หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ 300 ซีซี 4 จังหวะ ให้กำลังขับเคลื่อน 22 แรงม้าที่ แรงบิดสูงสุด 22.3 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบต่อนาที

สนนราคาของ Vespa GTS 300 Super อยู่ที่ 310,000 บาท



Vespa GTS 300 Super Sport

Vespa GTS 300 Super Sport

ยกระดับความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยสีดำด้าน พร้อมเบาะหนังตะเข็บส้ม เสริมด้วยสติ๊กเกอร์ Sport สีส้มที่กระบังล้อหลังและโลโก้ S ที่หน้ารถ ยังไม่พอ เพราะยังเสริมด้วยระบบป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) เพื่อการขับขี่ที่มั่นใจยิ่งขึ้น

สนนราคาของ Vespa GTS 300 Super Sport อยู่ที่ 345,000 บาท


Vespa GTS 300 Touring

Vespa GTS 300 Touring

GTS 300 ที่มาในรูปแบบรถเพื่อการผจญภัย ด้วยตัวถังสีน้ำตาลประกายทองสุดคลาสสิก และเบาะหนังแท้สีน้ำตาล เสริมด้วยตะแกรงหน้า ตะแกรงหลังและกระบังลมโปร่งใสส่วนเครื่องยนต์และระบบอื่นๆ จะอ้างอิงจากVespa GTS 300 Super Sport เป็นหลัก

สนนราคาของ Vespa GTS 300 Touring อยู่ที่ 365,000 บาท

Vespa GTS 300 โฉมใหม่ทั้ง 3 รุ่นพร้อมให้จับจองได้แล้วที่โชว์รูมเวสป้า ทั่วประเทศ

MV Agusta Brutale รถ Naked Bike ที่สวยดุและได้รับความนิยมไม่แพ้ใครจากเอ็มวี ออกุสต้า กำลังจะมีข่าวดีให้แฟนๆ ได้เตรียมเก็บเงินรอซื้อได้เลยกับ MV Agusta Brutale 1090 รุ่นสีดำด้านเพิ่มความดุดันมากยิ่งขึ้น หรือถ้าไม่ถูกใจสีมืดๆ ก็ยังมีแบบสีขาวด้านให้คุณได้เป็นเจ้าของอีกด้วย





ด้านอ็อพชั่นอื่นๆ นั้นก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรค ABS, เครื่องยนต์ขนาด 1,078 ซีซี แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมกับระบบช่วยระบายความร้อนแบบ Cooling With Separated Liquid And Oil Radiators ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้าที่ 11,300 รอบต่อนาที แรงบิด 112 นิวตัน-เมตรที่ 8,100 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แบบ 6 สปีด ที่ทำงานร่วมกับระบบคลัทช์แบบเปียก Multi–Disc With Mechanical Anti-Surging Device

ทั้งนี้ MV Agusta Brutale 1090 รุ่นสีดำด้านและขาวด้านนี้จะเปิดให้จับจองกันในเร็วๆ นี้

หลังจากที่ A.P. Honda ได้เปิดตัวรถต้นแบบสปอร์ตไบค์คันใหม่ล่าสุดอย่าง Honda RC213v-s และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจนแฟนๆ ตั้งหน้าตั้งตารอคอยเปิดตัวเวอร์ชั่นจำหน่ายจริงอย่างเต็มรูปแบบในเร็วๆ นี้




และในที่สุด เอ.พี. ฮอนด้า ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า Honda RC213v-s เตรียมขึ้นสายการผลิตแล้วหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบและพัฒนามาอย่างยาวนาน พร้อมประกาศว่าจะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 11 มิถุนายนที่จะถึงนี้ด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเปิดตัวที่ประเทศใดเป็นที่แรก

งานนี้ก็ต้องรอดูว่า Honda RC213v-s เวอร์ชั่นจำหน่ายจริง จะมีหน้าตาเป็นแบบใดและให้สมรรถนะเร้าใจแค่ไหน ติดตามชมกันให้ดี

Gogoro เปิดตัวรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าใหม่ในชื่อว่า "Smartscooter" ที่ชูจุดเด่นด้วยดีไซน์เรียบแต่โดดเด่นด้วยระบบไฟต่างๆ และระบบพลังงาขับเคลื่อนที่สามารถเปลี่ยน "แบตเตอรี่" ได้ง่ายๆ ราวกับเปลี่ยนถ่ายในของเล่นหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิก




ด้วยดีไซน์ภายนอกของ Gogoro Smartscooter ที่ออกแบบให้มีความเรียบแต่ล้ำยุคด้วยระบบไฟหน้าและไฟท้าย LED ที่ให้ทั้งแสงสว่างและสัญญาณในรูปแบบต่างๆ ส่วนแผงหน้าปัดเป็นจอ LED ที่สามารถแสดงผลความเร็ว, ปริมาณพลังงานไฟฟ้าและสามารถเปลี่ยนเฉดสีทูโทนในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ที่สำคัญ กระบังหน้ารถและกันโคลนเรียบๆ สามารถเปลี่ยนสีและลวดลายในรูปแบบเฉพาะที่ต้องการได้

รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพร้อมที่บริการชาร์จแบตเตอรี่

ระบบไฟใน Gogoro Smartscooter ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ระบบแบตเตอรี่รูปแบบเฉพาะจากโกโกโร ที่สามารถใส่เข้ากับตัวรถ 2 ก้อนก็พร้อมใช้งานทันที โดยผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้ที่ศูนย์บริการของ Gogoro ที่จะมีที่ชาร์จไฟโดยเฉพาะ โดยแบตเตอรี่ 2 ก้อนที่ชาร์จไฟเต็ม สามารถวิ่งได้ไกลถึง 97 กม. โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบระดับพลังงานไฟฟ้าที่เหลือพร้อมกับเส้นทางสู่ศูนย์บริการได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน

ผังระบบการจ่ายพลังงานในแบตเตอรี่

ที่สำคัญ ลูกค้ายังจะได้รับข้อเสนอในด้านของสัญญาครอบคลุมต่างๆ อาทิ ประกันภัยรถหายหนึ่งปี, บริการดูแลรักษาฟรีสองปี และการใช้บริการสถานีชาร์จไฟได้อย่างไม่จำกัดภายในระยะเวลาสองปีเต็ม




โดย Gogoro Smartscooter นั้นจะเตรียมเปิดให้จองกันแล้วในประเทศไต้หวันทั้งในเว็บไซต์และศูนย์ตัวแทนจำหน่ายและบริการ Gogoro ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ในราคาที่ 4,140 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 139,000 บาท

Suzuki TU250X รถจักรยานยนต์สไตล์คลาสสิกที่ขึ้นชื่อถึงความเรียบง่ายขี่บายลุยได้ทุกที่ ได้มีข่าวดีว่าทางซูซูกิมีแผนพิจารณาจำหน่ายในเมืองไทยในเร็วๆ นี้ สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งแฟนๆ รถคลาสสิกและผู้ใช้รถสำหรับเดินทางพื้นที่แคบๆ




ซึ่งข่าวคราวจากคนวงในได้เผยว่าทางซูซูกิมีแผนพิจารณานำเข้าและจำหน่าย Suzuki TU250X ซึ่งในเวลานี้กำลังวางแผนทำการบ้านเพื่อกำหนดราคาจำหน่ายจริง โดยเฉพาะราคารถที่รวมภาษีด้วยว่าจะสามารถจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมสำหรับชาวไทยได้หรือไม่

โดยรายละเอียดของ Suzuki TU250X นั้นเป็นรถจักรยานยนต์ที่สไตล์คลาสสิกที่ออกแบบให้มีความเรียบง่ายในรอบๆ ด้าน น้ำหนักเบา พร้อมออกแบบขนาดตัวถังให้สามารถรองรับผู้ขับขี่ได้หลากหลายสรีระ พร้อมกับสามารถเคลื่อนที่ได้แม้จะเข้าไปยังพื้นที่เล็กๆ ก็ตาม เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ชุมชนหรือการขับขี่ในถนนเมืองที่มีสภาพจราจรคับคั่งได้ไม่ยาก



ระบบขับเคลื่อนของ Suzuki TU250X ใช้เครื่องยนต์ขนาด 249cc แบบ 1 สูบ 4 จังหวะ ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ 5 สปีด ทั้งนี้ก็รอดูกันว่าจะมีราคาจำหน่ายในไทยเท่าไหร่?

Monday, July 6, 2015

ช่วงเวลาแห่งการทรมาณเหล่า Biker เสียจริง เมื่อมีการเปิดตัว บิ๊กไบค์ ติดๆ กันหลายรุ่นเหลือเกินช่วงนี้ หนึ่งในนั้นค่ายปีกนก Honda ก็ทยอยปล่อยของออกมาเรื่อยๆ เช่น CBR300R, CB650F กับ CBR650F ฯลฯ โดยการเปลี่ยนครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กๆ น้อยสำหรับรุ่น Standard เช่น ฝาสูบ, ท่อไอเสีย และการปรับแต่ง PGM-PSFT ที่เพิ่มการ Boost Power ช่วง Top และเพิ่มแรงบิดให้สูงขึ้นในช่วงกลาง (mid-range torque)





แต่ในโมเดล SP นั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่เยอะพอสมควร นอกเหนือจากสิ่งที่ Standard นั้นยังได้เพิ่ม โช๊คหน้าหัวกลับแบบปรับได้ของ Ohlins รุ่น NIX30 43mm และโช๊คหลังแบบพัฒนาขึ้นแบบพิเศษสำหรับ SP ของ Ohlins รุ่น TTX36 แบบปรับได้เต็มรูปแบบเหมือนกัน ส่วนระบบเบรคหน้าเป็นของ Brembo Monobloc และระบบเบรคหลังเป็นของ Nissin ส่วนรุ่น SP จะเป็นระบบของ Honda Electronic Combined ABS เป็นระบบที่ใช้กับรถที่ได้แชมป์ที่ IDM German Superbikes ในปี 2010


ด้านเรื่องเครื่องยนต์รุ่น Standard กับ SP เหมือนกันเกือบทุกอย่าง แต่รุ่น SP จะมีข้อแตกต่างเล็กน้อยเรื่องของพอร์ตไอเสียที่ปรับแต่งรูปทรงเพื่อให้การ เผาไหม้ได้อย่างหมดจดและการ ไหลเวียน Gas-Flowed ให้ดีขึ้น และทางด้าน Honda ยังเคลมอีกว่ารุ่น SP มีแรงม้าถึง 178 ตัว และแรงบิด 85 lbft และสุดท้ายคือ CBR1000RR Fireblade SP มาพร้อม Slipper Clutch เพิ่มความสมูทและปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น


สเปคเต็มๆ ของ Honda CBR1000RR Fireblade SP

  • Engine Type: Type Liquid-cooled 4-stroke 16-valve DOHC inline-4
  • Displacement 999.8cm3
  • Bore x Stroke 76 x 55.1mm
  • Compression Ratio 12.3:1
  • Max. Power Output 133kW (178hp) @ 12,250rpm
  • Max. Torque 114Nm @ 10,500rpm
  • Oil Capacity 3.7L
  • Induction – PGM-DSFI electronic fuel injection
  • Fuel Tank Capacity 17.5L
  • Fuel Consumption 18.0km/l ( WMTC mode*)
  • Clutch Type Wet, multiplate with diaphragm spring
  • Transmission Type 6-speed
  • Frame – Type Diamond; aluminium composite twin-spar
  • Dimensions (LxWxH) 2,080 x 720 x 1,141mm
  • Wheelbase 1410mm
  • Caster Angle 23° 30′
  • Trail 96mm
  • Seat Height 820mm
  • Ground Clearance 130mm
  • Kerb Weight 199kg (ABS: 210kg)
  • Front Suspension – Type Front Telescopic inverted fork with an inner tube diameter of 43mm, and a NIX30 (OHLINS) Front Fork with preload, compression and rebound adjustment, 120mm stroke
  • Rear Suspension – Type Rear Unit Pro-Link with gas-charged TTX36 (OHLINS) damper featuring 8mm preload and 22 click compression and 22click rebound damping adjustment. 60mm stroke.
  • Rims – 12-spoke cast aluminium – Front 17M/C x MT3.5 – Rim Size Rear 17M/C x MT6
  • Tyres – Front 120/70 -ZR17M/C (W) – Rear 190/50 -ZR17M/C (W)
  • ABS System Type Electronic Combined ABS
  • Brakes – Type Front 320 x 4.5mm dual hydraulic disc with 4-piston Brembo Monobloc calipers and sintered metal pads
  • Brakes Rear – 220 x 5mm hydraulic disc with single-piston caliper and sintered metal pads
  • Instruments – Gear position, coolant temperature, speedometer, clock/lap time, trip/fuel efficiency/fuel consumption and odometer/numerical tachometer

Lifan แบรนด์จากจีนที่เข็น Lifan KP250 ออกมาชน Z-Series ของ Kawasaki โดยนาย Nico Butti ดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลี่เป็นผู้ออกแบบเจ้า KP250 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเหมือน Z250





โดยนาย Butti บอกสั้นๆ ว่าเขาออกแบบ KP250 ให้มีรูปลักษณ์สไตล์ยุโรปเพื่อให้ลูกค้าชาวจีน ที่ชื่นชอบรถสไตล์ยุโรป โดยคาดว่าราคาของ KP250 จะอยู่ที่ราว $3200 หรือ 2485 ยูโร ถ้านำไปขายในยุโรปในราคานี้จริงก็เป็นราคาที่น่าสนใจ Lifan KP250 มากับเครื่องยนต์ 19 BHP แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนออกมา คงต้องรออีกซักพักก็จะจัดเต็มมาให้ได้ชมกัน

หลังจากปล่อยวีดีโอเรียกน้ำย่อยกันแบบตาค้างกันมานานพอสมควร KTM ก็ถึงเวลาปล่อย 1290 Duke R ออกมาขายเสียที …. หลังปล่อยวีดีโอตัว Prototype ออกมายั่วน้ำลาย ให้สาวกค่ายสีส้มจาก ออสเตรีย ยลโฉม ก็ทำให้เหล่าสาวกตาค้าง ชะเง้อรอว่าเมื่อไหร่ KTM จะปล่อยเจ้า 1290R ออกมาซักที





เจ้า KTM 1290 Super Duke R ตัวนี้มากับเครื่อง 1,301cc เครื่องยนต์แบบ V-Twin Power 75 องศา 2 สูบ 6 สปีด (Keihin EMS with DBW) กับความแรง 180 HP (แรงม้า) อัตราเร่งจาก 0-200 km/h (124 mph) ใน 7.2 วินาที กระบอกสูบอยู่ที่ 1.3 ลิตร


ระบบเบรก Bosch 9ME Combined-ABS ของ Brembo ทั้งหน้าและหลัง และ Super Duke R ตัวนี้ ยังมาพร้อมระบบทีทันสมัยต่างๆ อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น Traction Control ที่มีโหมดกับขับขี่อย่างเช่น Sport Rain และโหมด Supermoto ความสูงเบาะ 835 mm และน้ำหนักตัวที่ 189 kg

เปิดตัวกันไปอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ Kawasaki Ninja 300 บิ๊กไบค์ อีกหนึ่งตัวจากค่ายสีเขียว ที่หักปากกาเซียน และตบหน้ากูรูฟันธงหลายต่อหลายคนที่พูดออกไปว่า “ให้ตายเถอะ มันไม่มีทางเข้ามาในไทยอย่างแน่นอน” ซึ่งถึงวันนี้ก็อย่างที่รู้ๆ กัน Kawasaki เดินสายพานการผลิตออกมาแล้ว ชิงเปิดตัว เปิดจองก่อนรุ่นพี่รุ่นใหญ่อย่าง Z800





ซึ่งก็ทำให้บรรดา Biker ที่ซื้อตัว 250cc ไปก่อนหน้านี้ ถึงกับหน้าชา กันเลยทีเดียว บางคนเพิ่งออกได้เดือนเดียว รถของตัวเองก็เป็นรถตกรุ่น แถมยัง 250 อีก ก็คงต้องทำใจกันไป มาพูดถึงตัวรถ Ninja 300 ABS คันนี้กันหน่อยดีกว่า ด้วยรุปร่างภายนอก การทำลายกราฟฟิค และสีที่ออกมาให้เลือกจองกัน ณ ตอนนี้มี เขียว, แดง (บางทีก็มองเป็นส้ม), ขาว กราฟฟิคที่ดูทันสมัยและสวยงามมากขึ้น รูปร่างไม่ได้ต่างอะไรไปจาก 250 ซักเท่าไหร่ แต่มีอะไรบ้างที่ต่างออกไป


มีอะไรใหม่ใน Ninja 300cc

  • เครื่องยนต์ : เครื่องยนต์ของ Ninja 300cc ปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 296cc กำลังเครื่องยนต์ 39HP เพิ่มจากเดิม 8HP และ ECU แบบเดียวกับ ER6n อีกด้วย เรียกได้ว่าเครื่องยนต์เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมาจากเดิมอีก
  • การออกแบบท่อไอเสีย : ท่อไอเสียจะมีการออกแบบที่ไม่เหมือนกันทาง 250cc จะมีลักษณะบิดงอไปทางเดียวกัน (ลักษณะตัว S) แต่ของ 300cc จะแยกออกจากกันดูสวยงามมากขึ้น และมีการขยายท่อให้ใหญ่ขึ้นอีกนิดเพื่อการระบายทีดีขึ้นอีกด้วย
  • ระบบเบรค ABS : ตัว Ninja 300 มีระบบเบรค ABS ติดมาให้อย่างเรียบร้อย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับตัว 650cc
  • Slipper Clutch : สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดอีกหนึ่งอย่างตัว Slipper Clutch นี่เองที่ทำให้ตัว 300cc ดูยิ่งน่าค้นหาเพิ่มขึ้น มันการระบบครัชแบบใหม่ที่ช่วยลดแรงกระชากของเครื่องยนต์ ในขณะที่ในรอบที่สูงแล้วมีการลดเกียร์ป้องกันล้อล๊อค เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ของเราได้มากขึ้น

ราคาจัดจำหน่าย

ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า Kawasaki Ninja 300cc จะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 182,500 บาท เพิ่มจากราคาเดิมของ 250cc อีกประมาณ 20,000 บาท ซึ่งดูแล้วคุ้มค่ามากๆ กับราคาที่เพิ่มขึ้นมาที่ได้เพิ่มทั้งกำลังเครื่องยนต์ การออกแบบวางตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ระบบ ABS และ Slipper Clutch ที่มีมาให้ ขนาดตัวผมเองที่ไม่ค่อยชอบรถทรง Sport เท่าไหร่ยังหลงเสน่ห์เจ้า Ninja 300cc ตัวนี้เลย


อัตราการดาวน์และผ่อน Ninja 300

ราคาเงินสด 182,500 บาท


สี / color. เขียว (green), ขาว(white), ส้ม (orange)


เงินดาวน์ยอดจัดดอกเบี้ยอัตราการผ่อน/เดือน
ดาวน์ 15%27,375155,1257.5%ผ่อน 7,433 x 24 เดือน
ผ่อน 5,278 x 36 เดือน
ผ่อน 4,201 x 48 เดือน
ดาวน์ 20%36,500146,0007%ผ่อน 6,935 x 24 เดือน
ผ่อน 5,718 x 30 เดือน
ผ่อน 4,907 x 36 เดือน
ผ่อน 4,544 x 40 เดือน
ผ่อน 3,893 x 48 เดือน
ดาวน์ 35%54,750127,7506.5%ผ่อน 6,015 x 24 เดือน
ผ่อน 4,950 x 30 เดือน
ผ่อน 4,240 x 36 เดือน
ผ่อน 3,918 x 40 เดือน
ผ่อน 3,353 x 48 เดือน

และแล้วก็เปิดราคามาจนได้หลังจากรอการมาของเจ้า Sport ค่ายส้ม (KTM) ตัวนี้มานาน … หลังจากปล่อยให้ค่ายอื่นเปิดตัว มอเตอร์ไซต์ พิกัด 200,300cc ในสาย Sport ไปหลายค่าย (Ninja 300, CBR300) ล่าสุด KTM ก็ได้เปิดราคาเจ้า Sport KTM RC 390 มาซักที ก่อนจะไปรู้ราคาเรามาทำความรู้จักเจ้า RC 390 กันก่อนดีกว่า





KTM 390 มาพร้อมกับเครื่องยนต์หนึ่งสูบ (ตามสไตล์ KTM) 373.2cc พร้อมเกียร์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ … ด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่ 43 แรงม้า ที่ทาง KTM เคลมว่า Top Speed อยู่ 175 กิโลเมตร / ชั่วโมง


ระบบความปลอดภัยมาครบด้วยระบบเบรค ABS ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างคือ รถเบาดีครับ น้ำหนัก (ไม่รวมของเหลว) อยู่ที่ 147 กิโลกรัม

ส่วนรายละเอียดยิบย่อย ความสูงเบาอยู่ที่ 820mm ความจุถังน้ำมัน 10 ลิตร ไฟหน้าที่ดูแปลกตาด้วยไฟสองดวง ดูเป็นเอกลักษณ์ดีทีเดียว


ซึ่งดุจากรายละเอียดเครื่องยนต์แล้วมันก็คือ Duke 390 ดีๆ นี่เองครับ ส่วนเรื่องราคาเปิดตัวที่ไทยในราคา 298,000 บาท (KTM ปรับราคาเหลือ 259,000 บาท)


ราคาเงินสด 298,000 บาท

259,000


ประกันชั้นหนึ่ง 17,000
ทะเบียน + พรบ. 3,300

มัดจำ 5,390


เงินดาวน์ยอดจัดดอกเบี้ยอัตราการผ่อน/เดือนยอดชำระวันออกรถ
ดาวน์ 20%51,800259,0006%9,670 x 24 เดือน
6,792 x 36 เดือน
5,353 x 48 เดือน
-


เป็นไปตามคาดไว้หลังจาก Kawasaki ขายยักษ์เขียวได้เข็น Ninja 300 (ABS) ออกมาก่อนหน้านี้ ได้มีการคาดคะเนกันว่า รุ่น Naked อย่าง Z250 น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็น Z300 อย่างแน่นอน …





ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ในงาน Motor Expo 2015 ที่ผ่านมาทาง Kawasaki ก็ได้เปิดตัว Kawasaki Z300 ใหม่ออกมาเรียบร้อยแล้ว อย่างไม่ต้องลุ้น และเป็นเจ้าของกันได้อย่างแน่นอนแล้ว

และก็เหมือนเดิมคนที่ซื้อ Z250 ก่อนหน้านี้ไม่เท่าไหร่คงต้องกระอักกันอีกรอบ กับการมาของ Z300 ครั้งนี้ ฮ่ะๆ ซึ่งเจ้า Z300 มาด้วยกันสองสีคือ เขียว และ เหลือง




มีอะไรใหม่ใน Z300 ต่างกับ  Z250 ตรงไหนบ้าง
  • เครื่องยนต์: เครื่องยนต์ของ Z300 ปริมาตรกระบอกสูบอยู่ที่ 296cc ในขณะที่ Z250 อยู่ที่ 249cc กำลังเครื่องยนต์ 39HP เพิ่มจากเดิม 8HP มันคือเครื่อง Ninja 300 นั่นเอง
  • ระบบเบรค ABS: เจ้า Z300 มาพร้อมกับระบบเบรค ABS เรียบร้อยแล้ว
  • Slipper Clutch: ก็ตามคาดว่าต้องมีเหมือนในตัว Ninja 300


เปิดราคาไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ Kawasaki Z300 ฉนนค่าตัวของรูปหล่ออยู่ที่ 172,000 บาท (ถูกกว่า Ninja 300 ลงมา 10,000 บาท) เพิ่มจากราคาเดิมของ Z250 ที่เปิดตัวอยู่ที่ 151,500 บาท (ประมาณ 20,000 บาท)






ราคาเงินสด 172,000 บาท


สี / color. เขียว (green), เหลือง (Yellow)


ทุนประกัน 140,000 -- ประกันชั้นหนึ่ง 11,508 -- Deduct 5,000 -- ทะเบียน 1,700


เงินดาวน์ยอดจัดดอกเบี้ยอัตราการผ่อน/เดือนยอดชำระวันออกรถ
ดาวน์ 15%25,800146,2007.5%9,037 x 18 เดือน
7,006 x 24 เดือน
5,788 x 30 เดือน
4,976 x 36 เดือน
4,396 x 42 เดือน
3,961 x 48 เดือน
39,008
ดาวน์ 20%34,400137,6007%8,448 x 18 เดือน
6,537 x 24 เดือน
5,390 x 30 เดือน
4,626 x 36 เดือน
4,080 x 42 เดือน
3,670 x 48 เดือน
47,608
ดาวน์ 30%51,600120,4006.5%7,342 x 18 เดือน
5,670 x 24 เดือน
4,667 x 30 เดือน
3,998 x 36 เดือน
3,520 x 42 เดือน
3,162 x 48 เดือน
64,808

รอคอยการเปิดราคามาอย่างยาวนาน KTM ประเทศไทยก็เผยราคาออกมาแล้ว ซึ่งเป็นไปตามคาดหมาย 339,000 บาท (เดือน ก.ค. 58 ทาง KTM ปรับราคา Duke 390 เหลือ 239,000 บาท) ซึ่งก็เดาได้ไม่ยาก จากราคา KTM รุ่นก่อนๆ ที่เคยเปิดตัวมาอย่างเช่น Duke 200 ราคาเปิดตัวก็ประมาณ 230,000 ส่วนเรื่องอัตราการผ่อนแต่ละเดือนนั้น ยังไม่ได้ออกมาอย่างเป็นทางการแต่ก็พอเดาได้ไม่ยากอีกเช่นกัน เพราะดาวน์เริ่มต้นที่ 20% หรือ 67,800 บาท





แต่ตอนนี้วางใจได้เลยว่า คุณต้องมีเงิน 339,000 ถึงจะเอาเจ้านี้ออกไปขี่เล่นได้


ราคาเงินสดดาวน์ (%)ยอดจัดค้ำประกันดอกเบี้ย18 เดือน24 เดือน30 เดือน36 เดือน42 เดือน48 เดือน

339,000
239,000
47,800 (20%)191,200ไม่ต้องค้ำ6.00%-8,923-6,268-7,006




 ขอบคุณข้อมูลจาก Duke Me KTM และ KTM อุบลฯ

ทำเอาเหล่าบรรดาไบเกอร์ที่หลงรักค่ายเขียว (Kawasaki) ตื่นเต้นไม่น้อยทีเดียวกับการได้เห็นภาพ Ninja 300 ที่ทำลายใหม่ สีใหม่ ครบรอบ 30 ปี มีตัวอักษรย่อ SE (Special Edition) ติดอยู่ ซื่งทำสีออกมาได้อย่างสวยงามทีเดียว มาดูกันว่ามีสีอะไรให้เราได้ตื่นเต้นกันบ้าง